สุดยอดอาหารเลิศรส – คลอเรลล่า

ทางตะวันตก คลอเรลล่าได้รับความนิยมในฐานะวิธีประหยัดในการรับโปรตีนอินทรีย์ (ประกอบด้วยโปรตีน 65%) เพราะมันโตเร็วมากและไม่โอ้อวดเลย และเพื่อให้ได้มาซึ่งโปรตีนจากนม คุณต้องมีทุ่งหญ้าสำหรับปศุสัตว์ ทุ่งสำหรับปลูกอาหารสำหรับพวกเขา ผู้คน ... กระบวนการนี้ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมหาศาล นอกจากนี้ คลอโรฟิลล์ในคลอเรลล่ามีปริมาณมากกว่าพืชชนิดอื่น โปรตีนมีคุณสมบัติเป็นด่าง ดังนั้นการใช้คลอเรลล่าช่วยเร่งกระบวนการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกแรงทางกายภาพ Chlorella เป็นอาหารที่สมบูรณ์และในขณะเดียวกันก็สามารถใช้เป็นอาหารเสริมวิตามินหรือแร่ธาตุ วิตามิน เกลือแร่ เอ็นไซม์ กรดอะมิโนที่จำเป็น และโปรตีนในนั้นอย่างมากมาย และที่พิเศษที่สุดคือคลอเรลล่าเป็นพืชชนิดเดียวที่มีวิตามินบี 12 คลอเรลล่าประกอบด้วยกรดอะมิโน 19 ชนิด โดย 10 ชนิดมีความจำเป็น ซึ่งหมายความว่าร่างกายจะได้รับจากอาหารเท่านั้น ดังนั้นโปรตีนคลอเรลล่าจึงถือว่าสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังสามารถย่อยได้สูง (ต่างจากโปรตีนที่สมบูรณ์อื่นๆ อีกมาก) อันที่จริงนี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์มากซึ่งคุณกินได้เพียงเป็นเวลานาน (ปรากฏการณ์นี้ถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ของ NASA เมื่อพวกเขาเลือกอาหารที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักบินอวกาศ) Chlorella เป็นสารล้างพิษจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพ น่าเสียดาย ในโลกสมัยใหม่ คุณภาพอากาศและน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง และเราต้องอดทนกับมัน และพืชมหัศจรรย์นี้ช่วยลดความเครียดของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม การบริโภคคลอเรลล่าทุกวันช่วยรักษาสุขภาพ โดยส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในระดับเซลล์ คลอเรลล่าช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ (ต่างจากยาที่ออกฤทธิ์กับอาการ) ต้องขอบคุณกรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิกและไรโบนิวคลีอิกที่มีอยู่ในนั้น คลอเรลล่าเร่งกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกาย ชะลอกระบวนการชรา และเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ เมื่อเลือกคลอเรลล่า อันดับแรก ให้คำนึงถึงปัจจัยการเจริญเติบโต – 3% เป็นตัวบ่งชี้ที่ดี ปริมาณโปรตีนควรเป็น 65-70% และคลอโรฟิลล์ – 6-7% ปริมาณคลอเรลลาที่แนะนำต่อวันโดยเฉลี่ยคือ 1 ช้อนชา แต่ถ้าคุณชอบมันจริง ๆ อย่ากลัวที่จะหักโหม: ไม่เป็นพิษและไม่สะสมในร่างกาย ผู้ที่ไม่แนะนำให้ได้รับธาตุเหล็กมากจากอาหาร ไม่ควรรับประทานคลอเรลล่าเกิน 4 ช้อนชาต่อวัน ที่มา: myvega.com

เขียนความเห็น